Home / Product knowledge

แนวคำตอบที่ลูกค้าถามบ่อยเกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ครับ #ตอบแบบนายช่างมือโปร #AutoCorpAdvise

--ถาม เลือกน้ำมันเกียร์อย่างไรให้เหมาะสมกับรถ

ตอบ -- ต้องใช้ตามสเปคที่ระบุไว้ในคู่มือรถครับ ตามรุ่นของรถครับ

-- ถาม ดูยังไงรถผมเป็นเกียร์ รุ่นไหน

ตอบ -- ดูได้จากคู่มือรถ หรือ ดูจากก้านไม้วัดน้ำมันเกียร์(หรือในรถยนต์บางรุ่นมีสติ๊กเกอร์ติดไว้ใต้ฝากระโปรงหน้ารถ)ครับ ถ้าฉลากไม่หลุด จะมีบอกไว้ครับ ว่าเป็น ATF xx หรือ ( CVT xx ) หรือ ดึงก้านไม้วัดน้ำมันเกียร์ขึ้นมา และดูตรงบริเวณ ระดับน้ำมันเกียร์ จะมีเขียนบอกไว้ครับ ส่วนเกียร์ CVT(ในบางรุ่น) ไม่มีก้านไม้วัดน้ำมันเกียร์ครับ

--ถาม น้ำมันเกียร์ เข้าศูนย์เค้าบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งาน จริงหรือไม่ครับ?

ตอบ ถ้าใช้แบบไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ และ กรองเกียร์เลย รับประกันให้เลย พังชัวร์!! (การสื่อสารอาจคลาดเคลื่อนจากการแปลในคู่มือรถจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอายุการใช้งานของรถตามกฏหมายประเทศญี่ปุ่นบังคับใช้แค่ 3 ปี โดยที่รถไม่ต้องตรวจสภาพ หากประสงค์จะใช้ต่อจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่สูงมาก จึงเป็นที่มาของอายุรถและการรับประกันรถยนต์ใหม่ในบ้านเราที่ 3 ปี หรือ 100,000 กม.ที่นี่คนไทยก็เข้าใจผิดว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์หรือไส้กรองเกียร์ ทั้งๆที่เป็นสิ่งจำเป็นกับการดูแลรักษารถยนต์เพราะเมืองไทยเป็นประเทศที่อากาศร้อน ความร้อนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในน้ำมันให้เสื่อมลง)

-- ถาม น้ำมันเกียร์ ควรเปลี่ยนเมื่อไรครับ ?

ตอบ -- ถ้าต้องการรักษาเกียร์ แนะนำควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 20,000 กิโลเมตรครับ คู่มือรถอาจเปลี่ยนที่ 40,000 กม. เนื่องจากการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แต่ละครั้งหากไม่ได้ทำการเปลี่ยนทั้งระบบน้ำมันเกียร์ที่ถ่ายออกมาก็ออกได้แค่ 40-50%เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ค้างอยู่ในระบบเกียร์หรือในทอล์คคอนเวอร์เตอร์ เมื่อใส่น้ำมันใหม่เข้าไปกับไปผสมกับน้ำมันเก่าทำให้ประสิทธิภาพน้ำมันใหม่จาก100%อาจเหลือแค่ 70-80% เท่านั้น ดังนั้นหากต้องการประสิทธิภาพควรเปลี่ยนทุกๆ 20,000กม.หรือทำการเปลี่ยนทั้งระบบซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

-- ถาม เกียร์มี กรองเกียร์ด้วยหรอครับ ?

ตอบ -- มีครับ

-- ถาม กรองเกียร์ ถอดล้างได้ ไหมครับ เห็นบางที่เค้าก็ถอดล้างกัน แบบว่าอยากเซฟเงินหน่อย ?

ตอบ -- สำหรับกรองเกียร์ ไม่แนะนำถอดล้างครับ แนะนำให้เปลี่ยนกรองเกียร์อันใหม่ดีกว่า เพราะถ้าช่างที่รู้หลักการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ จะรู้ว่าในกรองเกียร์จะมีผงฝุ่นเหล็กที่เล็กและละเอียดมากๆ ติดที่แผ่นผ้ากรอง เมื่อเอาน้ำมันฉีดล้าง หรือลมเป่าอัดเข้าไป ก็จะทำให้ ผงฝุ่นเหล็กนั้นกระจาย และนำใส่กลับเข้าไปในเกียร์ใหม่ ผงฝุ่นเหล็กที่เล็กและละเอียด ก็พร้อมที่จะวิ่งไปตามรูน้ำมันต่างๆ ตามชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบเกียร์ เป็นสาเหตุให้เกียร์เสียหายได้ ถ้าจะล้างแนะนำล้างในส่วนของอ่างน้ำมันเกียร์ซึ่งจะมีแม่เหล็กดูพวกฝุ่นผงเศษโลหะต่างๆจะดีกว่าครับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดเก็บเศษโลหะต่างๆ